คุณสมบัติของอะคริลิคเปรียบเทียบกับกระจกแก้ว

อะครีลิค โพลีคาร์บอเนท กระจกนิรภัย อะไรดีกว่ากัน?

อะครีลิค (Acrylic) คืออะไร?

แผ่นอะครีลิค “Acrylic”เป็นแผ่นพลาสติกเรียบชนิด Thermoplastic ซึ่งผลิตจากน้ำยา MMA (Methyl Methacrylate) นำไปเข้าระบบหล่อแบบ (Casting System) ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษ คือ เมื่อได้รับความร้อนสูงจะอ่อนตัวลง สามารถดัดหรือขึ้นรูปเป็นแบบต่าง ๆ ได้ และเมื่อเย็นตัวลงจะแข็งตัวและคงสภาพไว้ มีน้ำหนักเบาและสามารถแกะสลัก พ่นสี ระบาย หรือ ชิลค์สกรีน เป็นรูปหรือลวดลายต่างๆ ได้

กระบวนการผลิต ของ Acrylic ใน 2 ระบบ แตกต่างกันในแง่ของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต โดยในระบบ Casting จะใช้น้ำยา MMA เป็นวัตถุดิบในการผลิต ส่วนในระบบ Extrusion ใช้เม็ด PMMA ในการผลิต สำหรับคุณสมบัติจะใกล้เคียงกัน เนื่องจากมีวัตถุดิบเบื้องต้นชนิดเดียวกัน เพียงแต่เมื่อผ่าน process ที่แตกต่างกันจึงทำให้มีข้อจำกัดการใช้งานต่างกันซึ่ง ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้งานในลักษณะต่างๆด้วย วิธีการพับแผ่นอะครีลิคเป็นมุมต่างๆ คือนำแผ่นอะครีลิคไปให้ความร้อนตามแนวเส้นลวดความร้อน เมื่ออะครีลิคนิ่มตัว จึงทำการพับให้ได้มุมตามที่ต้องการคุณสมบัติพิเศษ อีกอย่างหนึ่งของแผ่นอะครีลิค คือ สามารถทนแรงกระแทกได้ดีกว่ากระจกครับ โดยความหนาของแผ่นจะเป็นปัจจัยที่แปรผันโดยตรงกับการทนแรงกระแทกขนาดความหนาของแผ่นอะครีลิคมีตั้งแต่ 2 มิลลิเมตร – 100 มิลลิเมตรสามารถนำมาผลิตเป็นสิ่งของต่างๆ ได้ หลากหลาย เ่ช่น กรอบรูป , ชั้นวางโชว์ , ป้ายโฆษณา , ฯลฯ      จุดเด่นของแผ่นอะครีลิค    อยู่ที่ความแข็งแรง    ทนต่อความร้อนและแสงแดด เมื่อเทียบกับไม้ ซึ่งมีข้อจำกัดเมื่อนำมาวางกลางแจ้งเป็นเวลานาน สีของไม้ จะเปลี่ยนและผุพังได้ง่าย ด้วยเหตุนี้ เฟอร์นิเจอร์จากอ่างอาบน้ำจึงแข็งแรง ทนทาน สีสดใส อายุใช้งานยาวนานประมาณ 10 ปี และรองรับน้ำหนักผู้นั่งได้ 3-4 คน

ข้อดีของการนำวัสดุแผ่นโพลีคาร์บอเนท มาใช้ในงาน

แผ่นโพลีคาร์บอเนท เป็นวัสดุ ผลิตจากเม็ดพลาสติก (Poly) ผสมด้วยสารที่มีคุณสมบัติทำให้แผ่นมีความยืดหยุ่นตัว หรือขยายตัวเมื่อได้รับความร้อน และจะคลายตัวเมื่อมีอุณหภูมิลดลง จึงแข็งแรงทนทาน ไม่ทำให้แผ่นแตกลายงาเหมือนพลาสติกทั่วไป
– น้ำหนักเบา คงทน ไม่แตกหักง่าย ทนต่อสภาวะแวดล้อมต่างๆได้ดี
– มีความแข็งแรงมากกว่ากระจกถึง 250 เท่า แข็งแรงกว่าแผ่นอะครีลิคถึง 20 เท่า
– วัสดุแผ่นมีความโปร่งแสง ผิวของแผ่น โพลีคาร์บอเนท เคลือบด้วยสารป้องกันรังสี UV จึงสามารถสะท้อนรังสีความร้อนได้เกือบ 100% เหมาะกับงานที่ต้องการแสงสว่าง ช่วยเป็นฉนวนกันความร้อนจากภายนอก ทนทานต่อความร้อนได้ดี การนำความร้อนต่ำ

ข้อดีของกระจกนิรภัย

  1. เมื่อกระจกแตกจะไม่มีเศษกระจกหลุดออกมาทำอันตรายผู้ขับขี่หรือผู้โดยสาร
  2. เมื่อกระจกแตกยังคงมองเห็นทัศนวิสัยได้ชัดเจนเกือบเหมือนเดิม
  3. เมื่อกระจกแตกร้าวยังคงใช้งานได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทันทีในขณะนั้น คือกระจกยังคงรูปเหมือนเดิมยังสามารถป้องกันลม ฝุ่นน้ำฝนได้
  4. ผู้โดยสารหรือผู้ขับขี่จะไม่ได้รับอันตรายร้ายแรงในกรณีผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารกระแทกกับกระจกในกรณีเกิดอุบัติเหตุ
Scroll to Top